การใส่สายยางให้อาหารเป็นวิธีการให้อาหารที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ เช่น ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการกลืน ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง ผู้ป่วยที่มีอาการโคม่า เป็นต้น ถึงแม้ว่าการใส่สายยางให้อาหารจะเป็นวิธีการให้อาหารที่ปลอดภัย การดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ภาวะแทรกซ้อนจากการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- ภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายยาง
- ภาวะแทรกซ้อนจากการให้อาหารทางสายยาง
ภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายยาง
- การเคลื่อนหลุดของสายยาง เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุด อาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น ผู้ป่วยขยับตัวมากเกินไป สายยางแน่นเกินไป หรือสายยางชำรุด
- การอุดตันของสายยาง อาจเกิดจากอาหาร น้ำ หรือสารคัดหลั่งต่างๆ
- การบาดเจ็บต่อทางเดินอาหาร อาจเกิดจากการใส่สายยางที่แรงเกินไป หรือผู้ป่วยดึงสายยางออกเอง
ภาวะแทรกซ้อนจากการให้อาหารทางสายยาง
- การติดเชื้อ มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่ปนเปื้อนเข้าไปในสายยางหรืออาหาร
- ภาวะขาดน้ำ อาจเกิดจากการให้อาหารทางสายยางมากเกินไป หรือผู้ป่วยอาเจียนหรือท้องเสีย
- ภาวะอุดตันทางเดินหายใจ อาจเกิดจากการสำลักอาหารหรือสารคัดหลั่ง
- ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ภาวะลำไส้อุดตัน ภาวะอาหารไม่ย่อย ภาวะกรดไหลย้อน
การป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายยางให้อาหาร
การใส่สายยางให้อาหารควรทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ดูแลผู้ป่วยควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการดูแลสายยางให้อาหารอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน
คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหาร
- สังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติ เช่น สายยางเคลื่อนหลุด อุดตัน หรือผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ควรรีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที
- ทำความสะอาดสายยางให้อาหารเป็นประจำด้วยน้ำเกลืออ่อนๆ
- เปลี่ยนสายยางให้อาหารตามระยะเวลาที่กำหนด
- ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและเหมาะสม
หากผู้ดูแลปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด การดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายยางให้อาหารได้